ปรับแต่งขั้นตอนการชำระเงิน
ไม่พลาดรายได้จากผู้มีโอกาสสมัครเป็นสมาชิก
การทิ้งรถเข็นคืออะไร
การทิ้งรถเข็นหรือการทิ้งการชำระเงินเกิดขึ้นเมื่อผู้มีโอกาสสมัครเป็นสมาชิกหรือผู้มีโอกาสบริจาคเงินเริ่มซื้อการสมัครสมาชิกหรือบริจาค แต่กลับไม่ดำเนินการให้เสร็จสมบูรณ์
อัตราการหยุดกลางคันโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 70% ในทุกอุตสาหกรรม (2023) กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ในทุกๆ 10 คนที่เลือกการสมัครสมาชิก จะมี 7 คนที่จากไปโดยไม่มีการซื้อ
เหตุใดผู้คนจึงหยุดการสมัครสมาชิกหรือการบริจาคกลางคัน
ขั้นตอนการชำระเงินที่ยาวนาน ความเร็วของเว็บไซต์ ค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด และการขาดความปลอดภัยเป็นเพียงสาเหตุบางประการที่ทำให้ผู้คนหยุดการสมัครสมาชิกหรือการบริจาคกลางคันหลังจากที่เริ่มขั้นตอนการชำระเงินแล้ว
หากใช้โทรศัพท์ มีแนวโน้มมากขึ้นที่คุณจะหยุดการชำระเงินกลางคันเมื่อรู้สึกถึงการติดขัดในครั้งแรก
💡 แนวทางปฏิบัติแนะนำเพื่อป้องกันการทิ้งรถเข็น
- ทำให้สมาชิกรู้สึกปลอดภัย
- ใช้ขั้นตอนที่น้อยลง
- แสดงความคืบหน้าในการดำเนินการ
ฉันจะติดตามอัตราการหยุดกลางคันได้อย่างไร
หากต้องการคำนวณอัตราการทิ้งรถเข็นขององค์กรข่าวของคุณ ให้ใช้สูตรต่อไปนี้
การทิ้งรถเข็น = จำนวนธุรกรรมที่ไม่เสร็จสมบูรณ์ ÷ จำนวนรถเข็นที่สร้างขึ้น
ตัวอย่างเช่น หากคน 100 คนเริ่มขั้นตอนการซื้อการสมัครสมาชิกหรือการบริจาค และมีคน 40 คนดำเนินการซื้อจนเสร็จสมบูรณ์ จะมีคน 60 คนที่ ทิ้ง รถเข็นของตน
0.6 = การซื้อที่ไม่เสร็จสมบูรณ์ 60 รายการ ÷ รถเข็นที่สร้างขึ้น 100 คัน
อัตราการทิ้งรถเข็นเท่ากับ 0.60 หรือ 60%
💡 แนวทางปฏิบัติแนะนำ: ใช้การวางซ้อนเมื่อมีคนกลับมาที่หน้าเว็บ หรือเมื่อกำลังจะออกจากหน้าเว็บ
ทำให้สมาชิกรู้สึกปลอดภัย
17% ของผู้คนทิ้งรถเข็นเพราะไม่ไว้วางใจ เช่น กังวลเรื่องการขโมยบัตรเครดิตหรือความปลอดภัยในด้านอื่นๆ
💡 แนวทางปฏิบัติแนะนำเพื่อความโปร่งใสของข้อมูล
- ขออีเมลของผู้ใช้ก่อน เพื่อที่คุณจะได้ติดตามผลได้
- ให้การรับรอง เช่น ใส่ข้อความ เราจะไม่เปิดเผยข้อมูลของคุณ
- ขอให้กรอกช่องที่จำเป็นเท่านั้น ซึ่งได้แก่
- อีเมล
- รหัสผ่าน
- ข้อมูลบัตรเครดิต
- ที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงิน
- ขอชื่อ นามสกุล และที่อยู่จริงสำหรับการสมัครสมาชิกประเภทสิ่งพิมพ์เท่านั้น
- หลีกเลี่ยงการขอหมายเลขโทรศัพท์หรือข้อมูลเพศ
- ใส่ข้อความ ยกเลิกได้ทุกเมื่อ ใต้ปุ่มการซื้อในขั้นตอนสุดท้าย
ใช้ขั้นตอนที่น้อยลง
งานศึกษาวิจัยในปี 2019 พบว่าครึ่งหนึ่งของผู้เลือกซื้อที่ตอบแบบสำรวจมีโอกาสน้อยลงที่จะดำเนินการซื้อสินค้าออนไลน์ให้เสร็จสมบูรณ์หากขั้นตอนการชำระเงินใช้เวลานานกว่า 30 วินาที
💡 แนวทางปฏิบัติแนะนำเพื่อให้ขั้นตอนการชำระเงินเร็วขึ้น
- จำกัดขั้นตอนการชำระเงินให้ไม่เกิน 3 ขั้นตอน เช่น บัญชี การเรียกเก็บเงิน และการตรวจสอบ
- เปิดใช้การเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีโซเชียล ซึ่งจะทำให้กลุ่มเป้าหมายลงชื่อเข้าใช้หรือลงทะเบียนได้ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียวโดยใช้บัญชีโซเชียลมีเดียที่มีอยู่แล้ว
- เปิดใช้การป้อนข้อความอัตโนมัติ
- เปิดใช้แป้นพิมพ์ตัวเลขในอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อให้ทำการเลือกได้ง่ายขึ้น
- เปิดใช้ตัวเลือกการชำระเงินผ่านบุคคลที่สาม เช่น PayPal หรือ Amazon Pay
- แสดงการชำระเงินในหน้าเดียว
แสดงความคืบหน้าในการดำเนินการ
21% ของคนทิ้งรถเข็นเนื่องจากประสบกับการชำระเงินที่ซับซ้อนหรือใช้เวลานาน
หน้าชำระเงินที่ชัดเจนและเรียบง่ายจะช่วยลดความสับสน ทำให้ผู้มีโอกาสสมัครเป็นสมาชิกและผู้มีโอกาสบริจาคเงินรับทราบข้อมูลตลอดกระบวนการ รวมทั้งช่วยให้การซื้อเสร็จสมบูรณ์ได้โดยง่าย
💡 แนวทางปฏิบัติแนะนำเพื่อให้ขั้นตอนการชำระเงินมีความเรียบง่าย
- แสดงแถบความคืบหน้า ณ ตำแหน่งเดิมตลอดกระบวนการ
- แสดงขั้นตอน เช่น 1 จาก 3 ขั้นตอน
- แสดงสรุปคำสั่งซื้อโดยแยกแต่ละรายการ ณ ตำแหน่งเดิมในหน้าเว็บตลอดกระบวนการ
-
-
สร้างกลุ่มเป้าหมายด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ของ Google
บทเรียนตัดสินใจได้ดีขึ้นโดยอาศัยข้อมูลของกลุ่มเป้าหมาย -
Subscribe with Google
ผลิตภัณฑ์Optimize the subscription funnel by making it easy for readers to subscribe and enjoy their subscription content everywhere