ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
ไปที่หน้าแดชบอร์ด
หากไม่แน่ใจว่าจะเริ่มจากตรงไหน ลองทำแบบทดสอบสั้นๆ เพื่อรับคำแนะนำที่ปรับให้เหมาะกับคุณ
บทเรียนที่ 5 จาก 6
เพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ด้วย Google Ads
5 นาที บทเรียนที่ต้องศึกษาต่อ

เพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ด้วย Google Ads

เพิ่มจำนวนการเข้าชมจากข่าวที่ดีที่สุดของคุณ

Google Ads คืออะไร

Blank

การมีกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งสำหรับวิธีที่คุณปรากฏใน Search จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแสดงเนื้อหาของคุณเมื่อผู้อ่านค้นหาและเรียกดูข่าวในส่วนต่างๆ ของ Google Search แต่คุณจะทำเช่นนี้ได้อย่างไร Google Ads เป็นโซลูชันการโฆษณาออนไลน์ที่จะช่วยให้คุณโปรโมตองค์กรข่าวของคุณในผลการค้นหาได้

ฉันจำเป็นต้องใช้ Google Ads ไหม

แม้ว่าองค์กรข่าวจำนวนมากจะไม่ได้ใช้การโฆษณาแบบชำระเงิน แต่การโฆษณารูปแบบนี้ก็อาจเป็นช่องทางที่ประสบความสำเร็จหากองค์กรของคุณมีเป้าหมายที่จับต้องได้ซึ่งสามารถบรรลุได้ด้วยระดับการมองเห็นที่เพิ่มขึ้นใน Search หากคุณต้องการบรรลุเป้าหมายใดๆ ก็ตามต่อไปนี้ Google Ads อาจเป็นคำตอบสำหรับคุณ

  • การเพิ่มสมาชิกแบบชำระเงิน
  • การเพิ่มสมาชิกจดหมายข่าว
  • การสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการรายงานข่าวในหัวข้อหนึ่งๆ โดยเฉพาะ
  • การกระตุ้นการลงชื่อสมัครเป็นสมาชิก

Google Ads ทำงานอย่างไร

Google Ads ให้คุณปรากฏบนลิงก์โฆษณาใน Search ได้ อันดับโฆษณาของคุณกำหนดโดยต้นทุนต่อคลิก (CPC) ที่คุณยินดีจะจ่ายและคะแนนคุณภาพ ต้นทุนต่อคลิกของคุณจะแตกต่างกันไปสำหรับแต่ละคีย์เวิร์ดที่คุณเสนอราคา คะแนนคุณภาพจะกำหนดโดยความเกี่ยวข้องของเว็บไซต์ของคุณกับคีย์เวิร์ดดังกล่าวและประสบการณ์ของผู้ใช้

Blank

ดูวิธีเริ่มต้นใช้งาน Google Ads

Blank

ขั้นตอนที่ 1

กำหนดเป้าหมาย: ตรวจสอบว่าคุณมีเป้าหมายที่วัดได้สำหรับแคมเปญโฆษณาของคุณ ตัวอย่างเช่น เป้าหมายที่จะกระตุ้น Conversion สำหรับจดหมายข่าวฉบับใหม่ได้ ตรวจสอบว่าคุณสามารถวัดความคืบหน้าสู่เป้าหมายได้

ขั้นตอนที่ 2

ตัดสินใจว่าจะลงโฆษณาที่ไหน: คุณสามารถจำกัดการโฆษณาในวงแคบเพื่อเข้าถึงชุมชนในท้องถิ่น หรือไปถึงระดับประเทศ/โลกหากโฆษณาของคุณเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น

ขั้นตอนที่ 3

สร้างสารที่ต้องการจะสื่อ: ไฮไลต์เหตุผลที่กลุ่มเป้าหมายควรสนใจธุรกิจของคุณหรือแคมเปญที่คุณกำลังโฆษณา ให้ใช้ประโยคสั้นๆ 3 ประโยค

ขั้นตอนที่ 4

กำหนดคีย์เวิร์ดและงบประมาณสูงสุด: กำหนดจำนวนเงินสูงสุดต่อเดือนที่คุณยินดีจ่าย รายการคีย์เวิร์ดสำหรับแคมเปญ และต้นทุนต่อคลิกสำหรับแต่ละคีย์เวิร์ด

หากคุณเป็นองค์กรการกุศล ก็สามารถตรวจสอบว่าคุณมีสิทธิ์ใช้งาน Google Ad Grants หรือไม่

Blank

ดู Google Analytics 4

Blank

ส่วนต่างๆ ใน Google Analytics 4 มีอะไรบ้าง

  • หน้าแรก
  • รายงาน
  • สำรวจ
  • การโฆษณา
  • กำหนดค่า
  • ผู้ดูแลระบบ

หน้าแรกจะแสดงประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณในช่วง 7 วันที่ผ่านมา และข้อมูลเชิงลึกเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้แมชชีนเลิร์นนิง

ในหน้าแรก คุณจะดูสิ่งต่อไปนี้ได้

  • ผู้ใช้
  • ผู้ใช้ใหม่
  • เวลาในการมีส่วนร่วม
    • เวลาที่ใช้
    • รายได้จากการสมัครสมาชิก
    • การบริจาค
    • รายได้จากโฆษณา
  • ผู้ใช้ที่อยู่ในเว็บไซต์ในขณะนี้

💡 แนวทางปฏิบัติแนะนำ: ใช้แถบค้นหาที่ด้านบนหากคุณประสบปัญหาในการค้นหาบางสิ่ง

Blank

กำหนดเป้าหมาย

Blank

คุณจะมีเป้าหมายเดียวหรือหลายเป้าหมายก็ได้สำหรับแคมเปญโฆษณา (เช่น การเพิ่มสมาชิกจดหมายข่าว การทำ Conversion เป็นสมาชิกแบบชำระเงิน การสร้างการรับรู้เกี่ยวกับหัวข้อการรายงานข่าวเฉพาะกลุ่ม) ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบใดก็ควรสร้างแคมเปญไว้หลายแคมเปญ โดยแต่ละแคมเปญมีสารที่แตกต่างกันและชุดคีย์เวิร์ดที่แตกต่างกันซึ่งคุณหวังให้ปรากฏขึ้นในการค้นหา การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของแคมเปญจะช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนจุดที่ต้องการมุ่งใช้งบประมาณได้เมื่อเวลาผ่านไป

💡 แนวทางปฏิบัติแนะนำ

Blank

เลือกที่ที่จะโฆษณา

Blank

หากคุณเป็นองค์กรข่าวในท้องถิ่น คุณสามารถกำหนดเป้าหมายโฆษณาตามภูมิศาสตร์เป็นผู้อ่านในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องได้

นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกคีย์เวิร์ดที่ต้องการจะเสนอราคาสำหรับการใช้ Smart Bidding โดยคุณจะต้องมี Conversion อย่างน้อย 30 รายการและโดยทั่วไปจะต้องมีข้อมูลระยะเวลานานกว่า 1 เดือน

Smart Bidding คือกลยุทธ์การเสนอราคาที่ใช้แมชชีนเลิร์นนิงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ Conversion ในการประมูลแต่ละครั้ง โดยสามารถใช้กลยุทธ์ดังกล่าวเพื่อจุดประสงค์ต่อไปนี้

  • เพิ่มยอดขายหรือผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าโดยการเพิ่มราคาเสนอเพื่อให้ได้ผู้ใช้ที่เหมาะสม ไม่ว่าต้นทุนจะเป็นเท่าใดก็ตาม (โดยปกติแล้วจะมีต้นทุนสูงขึ้น)
  • ปรับแต่งการเสนอราคาตามสัญญาณต่างๆ อย่างเช่นอุปกรณ์ของผู้ใช้ (เช่น การปรับราคาเสนอหากผู้ใช้ใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่) ตำแหน่งทางกายภาพ (เช่น ข่าวเด่น หรือหน้าที่แสดงเฉพาะพื้นที่ที่ผู้ใช้อยู่) วันและเวลา เป็นต้น
Blank

สร้างสารที่ต้องการจะสื่อ

Blank

ขั้นตอนที่ 1

สร้างคำกระตุ้นให้ดำเนินการ (Call-To-Action หรือ CTA) ที่น่าจะโดนใจผู้อ่าน ซึ่งสะท้อนถึงเป้าหมายทางการตลาดของคุณ

ขั้นตอนที่ 2

จัดลำดับความสำคัญของเนื้อหาหรือหน้า Landing Page ที่คุณต้องการจะโฆษณา เลือกหน้าที่จะมีปริมาณการค้นหาสูงกว่าและ CTA จะนำผู้ใช้ไปยังเป้าหมายของคุณได้อย่างชัดเจน

ขั้นตอนที่ 3

เลือกหน้า Landing Page 10 หน้าที่จะทำงานได้ดีที่สุดและจัดกลุ่มไว้ในแคมเปญ (โดยมีหน้า Landing Page อย่างน้อย 2 หน้าต่อแคมเปญ)

💡 แนวทางปฏิบัติแนะนำ

  • สร้างกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลที่คุณมีการจัด CTA, โครงสร้างบัญชี, แคมเปญ และคีย์เวิร์ดทั้งหมดของคุณไว้
  • กำหนดหน้า Landing Page ที่มีความสำคัญสูงสุดซึ่งมีแนวโน้มมากที่สุดที่จะดึงดูดผู้ใช้ใหม่และเปลี่ยนผู้ใช้เหล่านี้เป็นผู้ใช้ขาประจำ
  • ตรวจสอบว่า CTA ของหน้า Landing Page อยู่ในครึ่งหน้าบนและมีมากกว่า 1 ที่ มีความชัดเจนและเข้าใจง่าย
Blank

กำหนดคีย์เวิร์ดและงบประมาณสูงสุด

Blank

แคมเปญจะมีกลุ่มโฆษณาหลายกลุ่มที่จัดไว้เป็นหัวข้อที่เฉพาะเจาะจงซึ่งช่วยให้คงความเป็นระเบียบไว้เสมอ กลุ่มโฆษณาแต่ละกลุ่มจะมีรายการคีย์เวิร์ดซึ่งควรทำให้กลุ่มโฆษณามีความเกี่ยวข้องกับจุดประสงค์ของผู้ค้นหาเสมอ

แต่ละคีย์เวิร์ดจะมีต้นทุนต่อคลิก (CPC) โดยเฉลี่ย ซึ่งคุณจะตรวจสอบได้ในบัญชีของคุณ คุณสามารถกำหนดงบประมาณสูงสุดทั้งแบบรายวันและรายเดือนเพื่อใช้จัดการจำนวนเงินที่จะใช้จ่ายใน Google Ads

💡 แนวทางปฏิบัติแนะนำ

  • ตรวจสอบ Google เทรนด์ ว่าผู้ใช้มีแนวโน้มที่จะใช้คำใดมากที่สุดในการค้นหาและเลือกคีย์เวิร์ดให้เป็นไปตามนั้น
  • สร้างแคมเปญโดยอิงตามหัวข้อต่างๆ และกำหนดคีย์เวิร์ดอย่างน้อย 10 คำสำหรับแต่ละหัวข้อ
  • กำหนดงบประมาณรายวันและรายเดือนสำหรับแคมเปญต่างๆ
  • ตรวจสอบประสิทธิภาพของคีย์เวิร์ดและกลุ่มโฆษณาเป็นประจำเพื่อปรับให้เหมาะสม
Blank
คุณจะให้คะแนนบทเรียนนี้อย่างไร
ความคิดเห็นของคุณจะช่วยให้เราปรับปรุงบทเรียนได้อย่างต่อเนื่อง
ตอบคำถามนี้เพื่อให้จบบทนี้
สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนตั้งค่า Google Ads คืออะไร
ส่ง
checklist (8)
ทำแบบทดสอบเสร็จเรียบร้อย
ยินดีด้วย คุณทำสำเร็จแล้ว Increase site traffic with Google Ads
ทบทวนบทเรียนแล้วลองอีกครั้ง
in progress
Recommended for you
Leave and lose progress?
By leaving this page you will lose all progress on your current lesson. Are you sure you want to continue and lose your progress?