ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
ไปที่หน้าแดชบอร์ด
หากไม่แน่ใจว่าจะเริ่มจากตรงไหน ลองทำแบบทดสอบสั้นๆ เพื่อรับคำแนะนำที่ปรับให้เหมาะกับคุณ
บทเรียนที่ 4 จาก 9
ทำความเข้าใจรายได้จากโฆษณาแบบขายตรงและแบบเป็นโปรแกรม
5 นาที บทเรียนที่ต้องศึกษาต่อ

ทำความเข้าใจรายได้จากโฆษณาแบบขายตรงและแบบเป็นโปรแกรม

วิธีต่างๆ ในการขายโฆษณา ตั้งราคา เสนอขายกับผู้ลงโฆษณา และสื่อสารผลลัพธ์

ฉันจะขายโฆษณาของฉันได้อย่างไร

Blank

ผู้เผยแพร่เนื้อหาส่วนใหญ่ขายโฆษณาแบบขายตรงและแบบเป็นโปรแกรม

ในการขายตรง คุณจะขาย จัดการ และทำแคมเปญให้สำเร็จกับผู้ลงโฆษณาโดยไม่มีบุคคลที่สาม การขายตรงให้สิ่งต่อไปนี้แก่คุณ

  • การควบคุมโฆษณาที่แสดงในเว็บไซต์ของคุณได้โดยตรง
  • ความสัมพันธ์กับผู้ลงโฆษณาที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
  • การขายพื้นที่โฆษณาได้ในราคาที่สูงขึ้นโดยเฉลี่ย

ในการขายแบบเป็นโปรแกรม คุณขายโฆษณาผ่านเทคโนโลยีอัตโนมัติที่ขาย จัดการ และดำเนินการแคมเปญให้แก่คุณ การขายแบบเป็นโปรแกรมให้สิ่งต่อไปนี้แก่คุณ

  • การขายอัตโนมัติจะอิงตามข้อมูลต่างๆ เนื้อหา พฤติกรรมผู้อ่าน และข้อมูลประชากร เป็นต้น
  • ความสามารถในการแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องมากที่สุดต่อกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งสามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมและอัตราการคลิกผ่าน (CTR)
  • การเข้าถึงผู้ลงโฆษณาหลายพันรายแบบเรียลไทม์และในแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อให้คุณได้รับราคาประมูลสูงสุด

💡 แนวทางปฏิบัติแนะนำ: เลือกประเภทโฆษณา ขนาด และตำแหน่งโฆษณาต่างๆ ที่แนะนำโดยมาตรฐานโฆษณาที่ดีกว่า ซึ่งระบุโฆษณาที่ผู้บริโภคต้องการมากที่สุด

Blank

ฉันจะเลือกอย่างไรว่าโฆษณาใดควรขายตรงหรือโฆษณาใดควรขายแบบเป็นโปรแกรม

Blank

โดยเฉลี่ยแล้ว โฆษณาแบบขายตรงจะขายได้ราคาสูงกว่าโฆษณาแบบเป็นโปรแกรม 2-4 เท่า โฆษณาแบบขายตรงมี CPM (ต้นทุนต่อการแสดงผลพันครั้ง) เฉลี่ยอยู่ที่ $10-20 ในขณะที่โฆษณาแบบเป็นโปรแกรมจะมี CPM เฉลี่ยอยู่ที่ $1-5

💡แนวทางปฏิบัติแนะนำ: เพิ่มรายได้ให้สูงขึ้นด้วยการขายพื้นที่โฆษณาแบบขายตรงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ (เป็นการเพิ่มอัตราการขายผ่านโดยตรง) และการขายพื้นที่โฆษณาที่เหลือผ่านการขายแบบเป็นโปรแกรม

คุณอาจจัดลำดับความสำคัญของพื้นที่โฆษณาได้ดังนี้

  1. การขายตรง
  2. ดีลที่ต้องการและดีลที่รับประกันการแสดงผลแบบเป็นโปรแกรม
  3. การประมูลส่วนตัวแบบเป็นโปรแกรม
  4. การประมูลแบบเปิดแบบเป็นโปรแกรม

โดยค่าเริ่มต้น ผู้เผยแพร่เนื้อหาที่ใช้ AdSense จะได้รับประโยชน์จากการจัดสรรแบบไดนามิก ซึ่งสามารถให้ราคาสูงสุดสำหรับโฆษณาของคุณโดยการอนุญาตให้ผู้ลงโฆษณาแข่งขันแบบเรียลไทม์กับผู้ลงโฆษณาแบบรับประกันการแสดงผล

💡 แนวทางปฏิบัติแนะนำ: ใช้ราคาของแต่ละประเภทโฆษณาเพื่อจัดลำดับความสำคัญว่าจะขายโฆษณาแบบขายตรงหรือขายแบบเป็นโปรแกรม

Blank

ตั้งราคา

Blank

ฉันจะกำหนดราคาในการขายตรงได้อย่างไร

ในการขายตรง ให้ระบุราคาในเรตการ์ด ซึ่งใช้สำหรับแสดงพื้นที่โฆษณาและราคา

💡 แนวทางปฏิบัติแนะนำ

  • ทำการวิจัยตลาด เช่น เพื่อดูว่าเรตการ์ดของสื่อเผยแพร่ในพื้นที่รายอื่นรวมอะไรไว้บ้าง
  • ปรับราคาโดยอิงตามขนาดของกลุ่มเป้าหมาย การเข้าถึง และแบรนด์ของคุณ
  • ตั้งราคาที่สูงขึ้นสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงซึ่งมีส่วนร่วมในโฆษณาประเภทต่างๆ เช่น วิดีโอ

ฉันจะกำหนดราคาขายแบบเป็นโปรแกรมได้อย่างไร

ในการขายแบบเป็นโปรแกรม ต้นทุนต่อการแสดงผลพันครั้งที่ตั้งไว้ (CPM) คือราคาเฉลี่ยที่คุณต้องการในการขายโฆษณา และคุณยังตั้งราคาพื้น ซึ่งเป็น CPM ขั้นต่ำในการขายโฆษณาได้อีกด้วย

จัดการการกำหนดราคาสำหรับแหล่งที่มาโดยอ้อมทั้งหมดของดีมานด์ได้จากที่เดียวโดยใช้กฎการกำหนดราคาแบบรวม ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่คุณสามารถกำหนดสำหรับราคาพื้น, CPM เป้าหมาย, โฆษณาประเภทต่างๆ ฯลฯ ได้

  1. ใน Google Ad Manager ให้ไปที่พื้นที่โฆษณา > กฎการกำหนดราคา
  2. เลือกกฎการกำหนดราคาแบบรวมใหม่ และป้อนชื่อ
  3. ในการกำหนดเป้าหมาย ให้เลือกหน่วยโฆษณา
  4. ในการกำหนดราคา ให้เลือกราคาสำหรับรายการที่เจาะจง หรือกำหนดราคาเดียวกันสำหรับผู้ลงโฆษณา แบรนด์ ขนาด ครีเอทีฟโฆษณาประเภทต่างๆ ฯลฯ และคุณยังกำหนดราคาพื้น, CPM เป้าหมาย หรือให้ Google ปรับราคาให้เหมาะสมได้อีกด้วย
  5. คลิกบันทึก

💡 แนวทางปฏิบัติแนะนำ

  • กำหนด CPM เป้าหมายแทนราคาพื้น ซึ่งจะสร้างรายได้เพิ่มเติมได้
  • ตั้งค่ากฎการกำหนดราคาเพื่อกำหนดราคาที่แตกต่างกันสำหรับขนาด ประเภทครีเอทีฟโฆษณา ตัวเลือกวิดีโอ และอื่นๆ
  • ระบุการกำหนดราคาสำหรับผู้ลงโฆษณา แบรนด์ หรือขนาดที่เจาะจง
Blank

เสนอขายกับผู้ลงโฆษณาด้วยชุดสื่อ

Blank

ชุดสื่อคืออะไร

ชุดสื่อคือเอกสารทางการตลาดที่คุณสามารถใช้เพื่อเสนอขายกับผู้ลงโฆษณาแบบขายตรง

💡 แนวทางปฏิบัติแนะนำเพื่อสร้างชุดสื่อ

  • เริ่มต้นด้วยการบอกเหตุผลที่ทำให้ผู้ลงโฆษณาอาจอยากร่วมงานกับคุณ และการทำงานกับคุณจะช่วยให้ผู้ลงโฆษณาบรรลุเป้าหมายของตนได้อย่างไร

  • แนะนำองค์กรและกลุ่มเป้าหมายของคุณ

  • ใส่สถิติ ตัวเลข และข้อมูลประชากรเพื่อให้เข้าใจถึงการมีส่วนร่วมของผู้อ่านกับเว็บไซต์ข่าวของคุณรวมถึงตัวตนบนโซเชียลของเว็บไซต์ข่าวดังกล่าว โดยคุณคุณสามารถรวมข้อมูลต่อไปนี้

    • ขนาดกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งรวมถึงสมาชิกแบบชำระเงิน หากมี
    • การรายงานข่าวตามภูมิศาสตร์
    • การรายงานข่าวตามหัวข้อ
    • จำนวนการดูหน้าเว็บต่อเดือน
    • การมองเห็นโฆษณา
    • จำนวนหน้าต่อการเข้าชมหรือระยะเวลาการเข้าชม
    • ยอดเข้าชมต่อเดือน

  • แชร์ไอเดียว่าจะลงโฆษณาในเว็บไซต์ของคุณอย่างไรได้บ้าง เช่น คุณอาจให้แบบจำลองตำแหน่งโฆษณา ซึ่งจะช่วยให้คุณและผู้ลงโฆษณามีข้อมูลเบื้องต้นสำหรับการพูดคุย

  • ใส่เรตการ์ดและข้อมูลติดต่อ
Blank

ทำแคมเปญโฆษณาที่ประสบความสำเร็จ

Blank
  1. ตั้งค่าการเรียกเก็บเงินลูกค้า วันที่ของแคมเปญ ชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณา แท็กโฆษณา และการติดตาม
  2. แชร์รายงานรายสัปดาห์หรือรายเดือนเกี่ยวกับการแสดงผล การคลิก และอัตราการคลิกผ่าน
  3. ส่งใบแจ้งหนี้ขั้นสุดท้ายและรายงานที่มีรายละเอียดพื้นที่โฆษณา (ประเภท ขนาด และตำแหน่งโฆษณา), การแสดงผลโฆษณา, CPM และต้นทุนทั้งหมด

💡 แนวทางปฏิบัติแนะนำ

  • ตั้งค่าการติดตามเพื่อรวมไว้ในรายงานแคมเปญ
  • ทดสอบหน้าต่างๆ ในอุปกรณ์หลายประเภทเพื่อดูว่าโฆษณาปรากฏอย่างไร
  • ออกรายงานว่าแคมเปญดำเนินไปตามเป้าหมายของผู้ลงโฆษณาอย่างไรในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละเดือน
  • แท็กหน้าด้วยแท็กผู้เผยแพร่โฆษณาผ่าน Google
Blank

ลงทุนในความสัมพันธ์ระยะยาวกับผู้ลงโฆษณา

Blank

เมื่อคุณทำแคมเปญโฆษณาแรกแล้ว ให้เปลี่ยนผู้ลงโฆษณาขาจรเป็นผู้ลงโฆษณาขาประจำ

การสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับผู้ลงโฆษณาจะช่วยคุณในเรื่องต่อไปนี้ได้

  • เพิ่ม CPM
  • เพิ่มอัตราการขายผ่าน หรือช่วยให้คุณคาดการณ์ได้มากขึ้น
  • มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการเติมโฆษณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการรายงานข่าวของคุณมีข่าวด่วนรวมอยู่
  • รับรายได้จากโฆษณาอย่างเชื่อถือได้มากขึ้นโดยมีการคาดการณ์ไม่ได้น้อยลง

💡 แนวทางปฏิบัติแนะนำ

  • นำเสนอรายงานขั้นสุดท้ายของแคมเปญกับผู้ลงโฆษณาโดยไฮไลต์เป้าหมายของผู้ลงโฆษณา
  • ทำหน้าที่เป็นพาร์ทเนอร์ทางความคิด และแชร์ข้อมูลว่าผู้ลงโฆษณาจะบรรลุเป้าหมายการโฆษณาของตนโดยทำงานร่วมกับคุณได้อย่างไร
  • แชร์โอกาสในการขยายกลุ่มเป้าหมาย
  • เสนอดีลระยะเวลาหลายปี
  • เสนอการขายตรงแบบเป็นโปรแกรม เพื่อให้ผู้ลงโฆษณาซื้อโฆษณาของคุณแบบเป็นโปรแกรมได้ในราคาที่ต้องการ
  • เข้าถึงเชิงรุกและตามระยะเวลาที่กำหนด
  • เตรียมข้อมูลความพร้อมใช้งานล่าสุดของพื้นที่โฆษณาไว้ให้เรียบร้อยโดยใช้ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น ฟีเจอร์การคาดการณ์พื้นที่โฆษณา
Blank
คุณจะให้คะแนนบทเรียนนี้อย่างไร
ความคิดเห็นของคุณจะช่วยให้เราปรับปรุงบทเรียนได้อย่างต่อเนื่อง
ตอบคำถามนี้เพื่อให้จบบทนี้
เมตริกใดมีแนวโน้มที่จะปรากฏในชุดสื่อน้อยที่สุด
ส่ง
checklist (8)
ทำแบบทดสอบเสร็จเรียบร้อย
ยินดีด้วย คุณทำสำเร็จแล้ว Understand Direct and Programmatic Ad Revenue
ทบทวนบทเรียนแล้วลองอีกครั้ง
in progress
Recommended for you
Leave and lose progress?
By leaving this page you will lose all progress on your current lesson. Are you sure you want to continue and lose your progress?